สุเมธ ปะเย ชายหนุ่มวัย 31 ปี ใช้เวลาตลอดทั้งวัน ทำงานจัดเตรียมห้องประชุมสำหรับประชุมชี้แจงผู้ปกครองก่อนวันเปิดเทอม ทำความสะอาดอาคารเรียน และ ดูแลต้นไม้ ทั้งหมดเป็นภารกิจในวันแรกของการทำหน้าที่นักการภารโรง โรงเรียนบ้านแม่แต อำเภอสันทราย จังหวัดเชียงใหม่
สุเมธ เล่าว่า เคยทำงานดูแลโรงสีข้าวชุมชนได้เงินเดือน 1 หมื่น 3 พันบาท แต่ต้องแยกกันอยู่กับภรรยาและลูกสาว เมื่อทราบว่าโรงเรียนในหมู่บ้านของภรรยา รับสมัครนักการภารโรง จึงตัดสินใจมาสมัคร แม้จะได้ค่าตอบแทนเพียง 9 พันบาท แต่ก็มีบ้านพักให้อาศัย และ ได้อยู่ใกล้ชิดกับครอบครัว
เงินเดือน 9 พันบาท จริงๆ ไม่พอใช้จ่าย แต่อาศัยเงินเดือนของภรรยาด้วยก็น่าจะเพียงพอ งานที่ผมเคยทำก่อนหน้านี้ ล้วนมีจำนวนมากกว่า 1 หมื่นบาท แต่มาอยู่ที่นี่ ได้ 9 พัน แลกกับการได้อยู่ดูแลลูก และ ภรรยา
แต่ใช่ว่าโรงเรียนทุกแห่งจะมีนักการภารโรงทำงานในวันแรกของการจ้างงาน เช่นที่โรงเรียนบ้านโป่งเกลือ ตำบลดอยลาน อำเภอเมืองเชียงราย ซึ่งเป็นโรงเรียนที่เกิดเหตุครูถูกทำร้ายร่างกายขณะเข้าเวร จนกระทรวงศึกษาธิการยกเลิกครูเวร คืนนักการภารโรงแก่ทุกโรงเรียน และ ให้ครูได้กลับไปทำหน้าที่สอนหนังสือได้อย่างเต็มที่
วันนี้ ยังไม่พบนักการภารโรงเข้าไปปฏิบัติหน้าที่ มีการปิดประตูทางเข้าออก และ อาคารเรียน ก็ปิดประตูไว้อย่างแน่นหนา
ชาวบ้านในพื้นที่บอกว่าช่วงปิดเทอมจะมีครูหมุนเวียนกันมาดูแลโรงเรียนบ่อยๆ แต่ไม่ได้อยู่ประจำ ส่วนการเพิ่มนักการภารโรงชาวบ้านยังไม่ทราบเรื่อง แต่เชื่อว่าน่าจะมีนักการภารโรงมาปฏิบัติหน้าที่ในช่วงเปิดภาคเรียนนี้
พรเทพ ดวงปันสิงห์ เลขาธิการสหพันธ์ครูภาคเหนือ และ รองเลขาธิการสมาพันธ์สมาคมครูแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า สาเหตุที่หลายโรงเรียนยังไม่มีนักการภารโรง เป็นเพราะระยะเวลาการสั่งการให้ประกาศรับสมัครจากเขตพื้นที่การศึกษาที่กระชั้นชิด รวมทั้งคุณวุฒิที่กำหนดให้ภารโรงต้องจบการศึกษาชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น เป็นเงื่อนไขที่ปิดกั้นโอกาสของผู้ประสงค์จะสมัครเป็นนักการภารโรง
และ ที่สำคัญ คือ อัตราค่าจ้าง เดือนละ 9 พันบาท อาจไม่เพียงพอกับค่าครองชีพในปัจจุบัน และ เห็นว่าอัตราค่าจ้างนักการภารโรงที่เหมาะสม ควรอยู่ที่ 1 หมื่น 2 พันบาท คำนวณจากค่าแรงขั้นต่ำใหม่ 400 บาท ที่รัฐบาลมีแผนจะขึ้นเท่ากันทั่วประเทศ ภายในปีนี้
ปัญหาเรื่องของคุณวุฒิรวมทั้งเรื่องของค่าจ้าง ทำให้หลายๆโรงเรียนทั่วประเทศน่าจะมีปัญหายังไม่มีภารโรงทำหน้าที่ เฉพาะที่กลุ่มเครือข่ายโรงเรียนในอำเภอสันทราย มีโรงเรียนได้รับตำแหน่งภารโรง 5 คน แต่ได้ภารโรงเพียง 1 คน เท่านั้น ขณะที่ โรงเรียนอื่นๆ ยังไม่พร้อมบางคนมาสมัครแล้ว แต่เมื่อเรียกรายงานตัว ก็กลับไม่มา
นอกจากการคืนตำแหน่งนักการภารโรงแล้ว สิ่งที่รองเลขาธิการสมาพันธ์สมาคมครูแห่งประเทศไทย เสนอให้ภาครัฐพิจารณาเพิ่มเติมเพื่อแก้ปัญหาความปลอดภัยในโรงเรียน คือ การติดตั้งกล้องวงจรปิด
เพราะหลังเกิดเหตุทำร้ายครูในโรงเรียน และ ยกเลิกครูเวร กล้องวงจรปิด กลายเป็นสิ่งจำเป็น ที่หลายๆ โรงเรียนต้องเร่งจัดหา หากเป็นโรงเรียนขนาดใหญ่งบประมาณมาก ก็คงไม่มีปัญหา แต่สำหรับโรงเรียนขนาดเล็กที่ขาดแคลนงบประมาณ ทางโรงเรียนจึงต้องใช้วิธีทอดผ้าป่าสามัคคีสามัคคีเพื่อติดตั้งระบบกล้องวงจรปิด
เลขาธิการสหพันธ์ครูภาคเหนือ เห็นว่าประเด็นความปลอดภัยในโรงเรียน ถือเป็นเรื่องสำคัญ และ มีส่วนสร้างคุณภาพการศึกษาแก่โรงเรียน จึงเห็นว่าภาครัฐควรจัดสรรงบประมาณเพื่อติดตั้งกล้องวงปิดให้แก่ทุกๆ โรงเรียน
ขอบคุณที่มาจาก : 1 พฤษภาคม ฟื้นนักการภารโรง